การแถลงข่าวของสำนักข่าวรัฐบาลเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา  ได้มีการเชิญผู้รับผิดชอบระดับสูงของรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญแพทย์จีนหลายท่านมาร่วมกันแถลงถึงบทบาทของการแพทย์แผนจีนที่เข้าร่วมการรักษาโควิด-19 ศ.จางโป๋หลี่ ได้ลำดับให้เห็นถึงการนำแพทย์แผนจีนยาจีนเข้าสู่กระบวนการร่วมรักษาตั้งแต่แรกจนได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี 

 

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม ค.ศ.2020  เวลา 16.00 น.  ในงานแถลงช่าวของรัฐบาลที่อู่ฮั่นมณฑลหูเป่ยได้มีการเชิญกรรมการหน่วยชี้นำศูนย์กลาง  กรรมการหน่วยพรรคในคณะกรรมาธิการสาธารณสุขและสุขภาพ เลขาธิการพรรคทบวงการแพทย์แผนจีน Yu Yan Hong หยีว์เยี่ยนหง       Zhang Bo Li จางโป๋หลี่ สมาชิกสภาวิศวกรรมแห่งชาติจีน  อธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์จีนเทียนจิน     Huang Lu Qi หวงลู่ฉี สมาชิกสภาวิศวกรรมแห่งชาติจีน  อธิการบดีสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีนแห่งชาติ         Liu Qing Quan หลิวชิงเฉวียนอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์จีนปักกิ่ง         Qiu Hai Bo ชิวไห่โป รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเซาท์อิสต์(ตงหนานต้าเสวีย) ร่วมกันบรรยายบทบาทที่สำคัญของยาแพทย์แผนจีนที่มีประสิทธิผลในการป้องกันรักษาโรคปอดอักเสบสายพันธุ์ใหม่จากไวรัสโคโรน่า และตอบคำถามจากผู้สื่อข่าว 

 

คำแถลงของ ศ.จางโป๋หลี่  รัฐบัณฑิตสมาชิกสภาวิศวกรรมแห่งประเทศจีน อธิการบดีมหาวิทยาลัยแทพย์จีนเทียนจิน

 

    

จางโป๋หลี่  อายุ 72 ปี เกิดที่เหอเป่ย  เป็นผู้ที่ทำงานด้านการวิจัยการแพทย์แผนจีนยาจีนแบบวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลายาวนาน  ได้วางรากฐานให้กับการศึกษาแพทย์แผนจีนและจัดวางมาตรฐานการศึกษาแพทย์จีนสากล   ผลักดันการพัฒนาและสร้างสรรค์ภาระกิจการสืบทอดความรู้แพทย์แผนจีน  ในช่วงทีมีการระบาดของโรคไวรัสปอดอักเสบสายพันธุ์ใหม่  ท่านได้ลงสู่พื้นที่ด้วยตัวเอง  เป็นผู้รับผิดชอบการจัดวางวิธีการรักษากู้ชีพด้วยการแพทย์แผนจีนประสานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน  อำนวยการการนำการแพทย์ยาจีนเข้าสู่กระบวนการรักษาปอดอักเสบสายพันธุ์ใหม่  จนได้รับผลสำเร็จอย่างชัดเจน  เป็นผู้ที่สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ให้กับการะกิจในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค  จึงได้รับเหรียญเกียรติยศแห่งชาติที่มีชื่อว่า “วีรบุรุษและวีรสตรีของประชาชน” จากประธานาธิบดีสี่จิ้นผิง เมื่อวันที่ 8 กันยายน

 

ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 27 มกราคม  ถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว  ในวันที่มาถึงสถานการณ์โรคระบาดหนักหน่วงมาก  โรงพยาบาลแน่นจนล้น  แผนก OPD คลินิกไข้มีคนรอตรวจหลายร้อยคน  รอคิวหลายชั่วโมงก็ยังไม่ได้ตรวจ       เวลาตรวจก็มีคนที่มาส่งคนไข้เข้ามาปะปนจนยุ่งเหยิงเป็นที่น่าหนักใจมาก   เมื่อผ่านมาแล้วสองเดือนแล้วสภาพของอู่ฮั่นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง    จำนวนของผู้ป่วยในโรงพยาบาลจาก 6 หมื่นคน  ลดลงเหลือประมาณ 5 พันคน     ผู้ป่วยที่อาการหนักจำนวน12,000  คน ลดลงเหลือราว 1,800  คน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 วันมานี้ตัวเลขของผู้ป่วยรายใหม่เป็นศูนย์ติดต่อกันมา 5 วันแล้ว  เป็นแนวโน้มที่ดี       สภาวการณ์ตอนนี้ก็เป็นเหมือนดั่งที่กวีชาวอิตาลี ดันเต้ ได้เขียนไว้ในบทกวีบทหนึ่งว่า  “มื่อทะลวงผ่านค่ำคืนอันมืดมน   ก็ได้ยลฟ้างามดาวพราวพราย”   

การได้เห็นสภาพการระบาดของโรคในยุโรปและอเมริกาเมื่อไม่กี่วันมานี้      ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นทุกข์ด้วยเช่นกัน    จึงยินดีที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ของเราหลายประการมาแลกเปลี่ยน  ดังต่อไปนี้

ประการแรก  ในวันแรกๆ ที่เผชิญกับภาวะโกลาหลของโรคระบาดในอู่ฮั่น   หน่วยนำของศูนย์กลางได้ออกมาตรการอย่างเข้มงวด ได้แก่  รวมศูนย์กักกัน  แยกคนไข้เพื่อให้การดูแลตามกลุ่ม     โดยได้ทำการคัดแยก  ผู้ป่วยที่มีไข้  ผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง  ผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ  ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ออกจากกันอย่างเด็ดขาด    โดยความร่วมมือของหน่วยงานระดับต่างๆ รวมทั้งประชาชนชาวอู่ฮั่นได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่    ในเวลาเพียงไม่กี่วันก็สามารถทำการคัดแยกผู้ป่วยตามกลุ่มออกมาได้   ทว่าการแยกคนออกมากักตัวเพียงอย่างเดียวโดยไม่ให้การจัดการใดๆ ก็เป็นผลสำเร็จเพียงครึ่งเดียว   ในขณะที่ยังไม่มียาที่มีฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อไวรัส  ไม่มีวัคซีน  แต่เรามียาจีน     ดังนั้นเราจึงได้จ่ายยาจีนในรูปแบบยาต้มกับยาจีนสำเร็จรูป    ในตอนเริ่มต้นไม่ค่อยราบรื่นนัก  อู่ฮั่นแบ่งเป็น 13  เขต  ในวันแรกเราจ่ายยาได้เพียง 3,000  ราย  หลังจากนั้น 2-3 วัน  เมื่อคนได้เห็นว่ายาจีนมีผลทำให้ไข้ลดลง  อาการไอบรรเทาลง  ก็เข้ามาหาอย่างเป็นฝ่ายกระทำ  เราจึงได้จ่ายยาไปอีก 1 หมื่นกว่าชุด    หลังจากนั้นก็มีคนมารับยาจีนไปใช้มากขึ้นเรื่อยๆ  จนจ่ายยาไป 6 แสนกว่าชุด    ผลในการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคเป็นอย่างไรบ้าง       ในมือข้าพเจ้ามีข้อมูลตัวเลขจากต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์   ในกลุ่มคนที่จัดออกเป็น 4 กลุ่มข้างต้น    มีจำนวนผู้ที่ตรวจยืนยันว่าติดเชื้อปอดอักเสบไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ลดลงเหลือ 30% จากอัตรา 80% ในตอนแรก      ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ามาตรการแยกคนไข้รวมไว้ในสถานที่หนึ่งกับการให้ยาจีนรับประทานโดยทั่วไปสามารถหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรค     วิธีนี้จึงเป็นพื้นฐานให้กับความสำเร็จในครั้งนี้

ประการที่สอง  ศูนย์กลางได้ออกคำชี้แนะว่า    ที่ควรรับไว้ก็ต้องรับที่ควรรักษาก็ต้องให้การรักษาอย่างดีที่สุด     แต่ในขณะนั้นไม่มีเตียงให้ผู้ป่วยอย่างเพียงพอ      หน่วยนำของศูนย์กลางจึงได้กำหนดให้มีการแยกบริหารจัดการเป็นกลุ่มๆ ให้การดูแลรักษาอย่างเป็นระบบ  ผู้ที่มีอาการหนักให้รักษาในโรงพยาบาลที่กำหนดไว้   ผู้ที่มีอาการเบาให้รักษาในโรงพยาบาลสนาม    มีการจัดวางแนวทางการบริหารจัดการสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเบากับอาการทั่วไป    สภาพในโรงพยาบาลสนามก็ไม่เหมือนโรงพยาบาลโดยทั่วไปด้วยเป็นที่คนหลายร้อยหลายพันคนมารวมกันอยู่ในโถงใหญ่แห่งหนึ่ง   การบริหารจัดการเป็นเรื่องใหญ่มาก       ภายใต้สภาพเช่นนี้ข้าพเจ้ากับ ศ.หลิวชิงเฉวียนได้ร่วมกันเสนอต่อกองอำนวยการขออนุญาตนำยาจีนเข้ามาใช้ใน รพ.สนาม      ขณะเดียวกันก็ได้จัดตั้ง รพ.สนามแพทย์แผนจีนแห่งหนึ่งขึ้น ได้แก่ โรงพยาบาลสนามเจียงเซี่ย   ในโรงพยาบาลแห่งนี้จัดให้งานบริการเป็นอันดับหนึ่ง  การรักษาเป็นอันดับสอง   บริการอย่างไร?   จากการที่ รพ.สนามมีขนาดใหญ่มาก  อุณหภูมิข้างในค่อนข้างต่ำ      ดังนั้นเราจึงประกันให้ผู้ป่วยได้มีเตียงอุ่นๆ  มีน้ำร้อนมีข้าวร้อนๆ กับการดูแลที่อบอุ่น     ให้ความเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วยหมั่นพูดคุยกับพวกเขา  มีทั้งที่จัดงานครบรอบวันเกิดให้   นำคนป่วยออกกำลังกาย  มอบรางวัลรพ.สนามสามดี      พร้อมกับการรักษาอย่างเอาจริงเอาจัง          ดังนั้นหมอของเรากับคนไข้จึงมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน   หลังจากทำเช่นนี้ผ่านไป 2-3วัน   ทุกคนก็รู้สึกว่า รพ.สนามไม่เหมือนกับ รพ. แต่เป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ร่วมกัน    เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน   ส่งผลดีต่อการรักษาโรค

ผู้ป่วยใน รพ.สนามของเราทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่มีอาการเบาและอาการธรรมดา       จากรายงานของ WHO  ผู้ป่วยปอดอักเสบไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่มีอาการหนักราว 13%   ผู้ที่มีอาการหนักมากประมาณ 7%      เราได้วางแนวทางว่าจะต้องไม่ให้ผู้ป่วยที่มีอาการเบาพัฒนาไปเป็นอาการหนัก เป็นจุดหมายหลักของ รพ.สนาม       เราได้ใช้การรักษาด้วยการบูรณาการการแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันโดยมีแพทย์แผนจีนเป็นหลัก   นอกจากการให้รับประทานยาต้มและยาจีนสำเร็จรูปแล้ว      ยังมีการนวดทุยหนา  การกวาซา  การประคบจุด เป็นการรักษาร่วม     ผลที่ได้รับจากข้อมูลของ รพ.สนามเจียงเซี่ยที่มีผู้ป่วย 564 ราย  ไม่มีแม้แต่รายเดียวที่โรคพัฒนาไปเป็นอาการหนัก    เมื่อเราได้ประสบการณ์จากที่นี่จึงได้นำเสนอไปยัง รพ.สนามแห่งอื่นๆ  จนมีผู้ป่วย 1 หมื่นกว่าคนที่ได้ใช้ยาจีน      ข้อมูลพื้นฐานจากรพ.สนามทุกแห่งรายงานว่าผู้ป่วยมีผู้ป่วยที่อาการโรคทรุดหนักมีเพียง 2-5%   จึงกล่าวได้ว่าการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนใน รพ.สนามสามารถลดการพัฒนาไปเป็นอาการหนักโรคได้อย่างชัดเจน      นี่เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคในครั้งนี้

มีอีกประสบการณ์หนึ่งในการรักษากู้ชีพผู้ป่วยที่มีอาการหนักหรือผู้ที่มีอาการหนักขั้นวิกฤต     กรณีผู้ที่มีอาการหนักเราใช้การรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันเป็นสำคัญ   โดยมีการแพทย์แผนจีนเข้าร่วมใน รพ.จินอิ๋นถาน  รพ.การแพทย์ผสมผสานหูเป่ย รพ.เหลยเสินได้รับผลดีมาก     ประสบการณ์ของเราคือการกล้าใช้ยาจีนที่เตรียมเป็นยาสำหรับฉีดตั้งแต่ระยะแรกๆ   ยาจีนสำหรับฉีดดังกล่าวได้แก่  ยาฉีดเซิงม่ายจู้เส้อเย่   ยาฉีดเซินม่ายจู้เส้อเย่  ยาทั้งสองชนิดมีบทบาทในการรักษาระดับ SaO2  ในเลือด ยกระดับออกซิเจนในเลือด   ยาฉีดเร่อชิงจู้เส้อเย่  ยาฉีดเร่อตู๋หนิงจู้เส้อเย่  มีบทบาทเสริมฤทธิ์ยาปฏิชีวนะ     ยาสำหรับฉีดเสวี่ยปี้จิ้งมีผลที่แน่นอนในการระงับการปะทุของการอักเสบ  การรักษากู้ชีพผู้ป่วยที่มีอาการหนักโดยใช้ยาแผนจีนประสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นแกนกลางที่ทำให้สามารถลดอัตราผู้เสียชีวิต


ประการสุดท้าย      เมื่อการตรวจไวรัสในตัวผู้ป่วยเป็นลบ ผู้ป่วยได้ออกจาก รพ.  และเข้าสู่สถานพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ      ในขั้นตอนการฟื้นฟูสุขภาพนี้  ผู้ป่วยยังอาจมีอาการอ่อนเพลีย ไอหรือมีปัญหาด้านอารมณ์จิตใจ  การอักเสบที่ปอดยังไม่หายจนเป็นปกติ   ขณะเดียวกันภูมิต้านทานของร่างกายก็ยังไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่      ผู้ป่วยระยะนี้เราได้ใช้วิธีทางแพทย์แผนจีนร่วมกับการแพทย์ปัจจุบัน   ได้แก่ การฝึกการหายใจ  ขณะเดียวกันได้ใช้การฝังเข็มรมยา  การนวด เป็นต้น ร่วมด้วย   มีประสิทธิผลในการช่วยฟื้นฟูร่างกาย  ช่วยรักษารอยโรคที่ปอดให้หายไป  คุ้มครองอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บ    มีบทบาทที่สำคัญในการซ่อมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย    ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าในระยะฟื้นฟู   การใช้ประโยชน์จากแพทย์จีนและแพทย์ปัจจุบันได้ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูจากโรคได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

การใช้แพทย์แผนจีนตั้งแต่ระยะแรกและใช้ร่วมรักษาตลอดทั้งกระบวนการของโรค   มีบทบาทที่สำคัญในการรักษาโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่  หากกล่าวว่ากระบวนการโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรน่าเป็นเส้นกราฟพาราโบล่า        การแพทย์แผนจีนและยาจีนมีบทบาทสำคัญตรงแขนสองข้างของกราฟ (หมายถึงตอนต้นกับตอนปลาย-ผู้เรียบเรียง)   ปัจจุบันแม้ว่าเราจะยังไม่มียาที่สามารถออกฤทธิ์ต่อไวรัสอย่างเฉพาะเจาะจง  แต่การแพทย์แผนจีนยังให้วิธีที่มีประสิทธิผล       การบูรณาการร่วมกันระหว่างการแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันได้ฉายแสงให้กับการรักษาที่เป็นแบบฉบับของประเทศจีน       ในขณะที่โลกกำลังประสบกับภาวะโรคระบาดอย่างรุนแรง    โรคระบาดแพร่ไปอย่างไม่มีพรมแดน  การแพทย์ก็ไม่มีพรมแดนเช่นกัน  จากประสบการณ์ข้างต้นเราจึงยินดีที่จะนำมาแลกเปลี่ยนและใช้ประโยชน์ร่วมกันกับเพื่อนร่วมอาชีพในทุกเขตแคว้น

 

เรียบเรียงโดย แพทย์จีน เภสัชกรสุทธิศักดิ์ ปวราธิสันต์

ที่มา  http://www.gov.cn/xinwen/2020-03/23/content_5494694.htm